วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ครูพันธุ์ใหม่กับครูยุคใหม่

เมื่อปลายสัปดาห์ที่ ผ่านมา จากผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กนป.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธาน มีการ พิจารณายุทธศาสตร์และมาตรการการปฏิรูประบบคุรุศึกษาแห่งชาติ ที่เสนอโดยคณะอนุกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติที่มีนายวรา กรณ์ สามโกเศศ เป็นประธาน ซึ่งมีเป้าหมาย 2 เป้าหมาย คือ เป้าหมายให้คนไทยยุคใหม่ใฝ่ดี ใฝ่รู้ คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และเป้าหมายเพื่อคุณภาพการศึกษา

ยุทธศาสตร์ที่นำเสนอมี 6 หัวข้อ ประกอบด้วย

1.จัดตั้งสถาบันคุรุศึกษาแห่งชาติ

2.ยกเครื่องระบบการพัฒนาและฝึกอบรมครู

3.สร้างครูพันธุ์ใหม่

4.ส่งเสริมนวัตกรรมหลักสูตรการผลิตครู

5.ยกเครื่องระบบการบริหารงานบุคคลของครูและบุคลากรทางการศึกษา

6.เสริมสร้างความพร้อมและความเข้มแข็งให้สถาบันการผลิตครู

ทั้ง 6 ประการคณะ กนป.เห็นว่าควรทบทวนการจัดตั้งสถาบันคุรุศึกษาแห่งชาติไว้ก่อน เนื่องจากการจัดตั้งต้องออกเป็นกฎหมาย ต้องใช้เวลานาน จึงเสนอให้กลไกของคณะอนุกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติทำงานคู่ขนานกับหน่วยการ ผลิตครู และให้อนุกรรมการรวบรวมตัวเลขการผลิตครูให้ชัดเจน จากการเกษียณราชการปกติ และเกษียณก่อนกำหนด รวมทั้งขอให้เร่งรัดจัดทำหลักสูตรการผลิตครู

สำหรับครูที่จะเกษียณราชการใน 10 ปีข้างหน้ามีถึง 200,000 คน

เฉพาะเรื่องของครูพันธุ์ใหม่ ซึ่งคณะอนุกรรมการแจงออกเป็น ครูพันธุ์ใหม่ และครูยุคใหม่ กล่าวคือ

ครู พันธุ์ใหม่ หมายถึง ครูที่ผลิตขึ้นมาโดยหลักสูตรใหม่ที่หลากหลาย (หลักสูตร 4+1, 4+2, 5+1, หลักสูตร 2 ปริญญา และหลักสูตรอื่นๆ) ในสาขาวิชาต่างๆ (ครู สควค. ครูสอนภาษาต่างประเทศ และสาขาอื่นๆ)

ครูยุคใหม่ หมายถึง ครูประจำการที่ได้รับการพัฒนาโดยหลักสูตรใหม่และรูปแบบที่หลากหลาย

การ จะได้มาซึ่งครูพันธุ์ใหม่ต้องมีการสร้างเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการเรียน รู้ของผู้เรียน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับเปลี่ยนการผลิตในรูปแบบใหม่ เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกคนดี คนเก่ง เข้ามาศึกษาในหลักสูตรการผลิตครูตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาในสถาบันผลิตครู ที่มีความเชี่ยวชาญ

แรงจูงใจจึงต้องมีทั้งในรูปแบบการให้ทุนการ ศึกษา การประกันการมีงานทำด้วยการบรรจุเข้ารับราชการครูในพื้นที่ที่กำหนดเมื่อ สำเร็จการศึกษา

สำหรับครูยุคใหม่ มาตรการระยะสั้นเร่งด่วน คือการปรับเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาและฝึกอบรมครูจากแบบ "เหมารวม" มาเป็น "แบบหลากหลาย" เพื่อให้อิสระครูเลือกเข้ารับการอบรมได้ตามความต้องการและสอดคล้องกับวิชา ที่สอน ด้วยการจัดระบบคูปองเพื่อการพัฒนาตนเองของครู และเน้นการกระจายสู่พื้นที่ (Area-based Training) และ Outsourcing System เพื่อเปิดโอกาสให้สถาบัน และที่มีผู้มีความรู้ความสามารถ และความเชี่ยวชาญจริงเป็นผู้จัดฝึกอบรม รวมทั้งให้ครูมีโอกาสเรียนรู้โดยเห็นตัวอย่างที่ดีจากเพื่อนครู เช่น ครูต้นแบบ ครูแห่งชาติ และควรใช้ "วิทยากรมืออาชีพ" ร่วมจัดกระบวนการพัฒนาในรูปแบบใหม่

ขณะที่น่าเป็นห่วงคือวิชาชีพครูไม่อาจดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่เก่งและดีมาเรียนครูและประกอบอาชีพครู

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การเลื่อนขั้นเงินเดือน "ครูผู้ช่วย"

การเลื่อนขั้นเงินเดือน "ครูผู้ช่วย"

จากการที่ได้มีการประกาศกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือ ต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับพ.ศ.2553 และจากมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 กำหนดให้ผู้ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งครูผู้ช่วยต้องได้รับการ เตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มเป็นเวลา 2 ปี ก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูนั้น สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้รับข้อหารือจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเกี่ยวกับการเลื่อนขั้น เงินเดือนครูผู้ช่วย ซึ่งเป็นที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา ดังนี้

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ขอหารือว่ากรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ได้ผ่านการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มแล้วและได้รับอนุมัติให้ดำรง ตำแหน่งครูในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 จะปรับให้ได้รับเงินเดือนตามกฎ ก.ค.ศ. ดังกล่าวข้างต้นก่อนเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี หรือจะเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปีก่อน แล้วจึงปรับให้ได้รับเงินเดือนตามกฎ ก.ค.ศ.

จากข้อหารือดังกล่าวข้างต้น ก.ค.ศ.พิจารณาแล้ว มีมติให้ครูผู้ช่วยที่ผ่านการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มแล้วและได้ รับอนุมัติให้ดำรงตำแหน่งครู ในวันที่1 ตุลาคม 2553 ปรับเงินเดือนตามกฎก.ค.ศ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับพ.ศ.2553 ก่อน แล้วจึงสั่งให้เลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี

ยกตัวอย่าง เช่น 1) นาย ก ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วยคุณวุฒิปริญญาตรี 4 ปี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2551 อัตราเงินเดือนแรกบรรจุ 7,940 บาท ผ่านการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม 2 ปีแล้วและได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ต้องปรับให้ได้รับเงินเดือนในอันดับ คศ.1 ขั้น 10,770 บาทก่อน แล้วจึงสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี 2)นาย ข ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วยคุณวุฒิปริญญาโททั่วไป วันที่ 1 ตุลาคม 2553 อัตราเงินเดือนแรกบรรจุ9,700 บาท เมื่อผ่านการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม 2 ปีแล้ว และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู ในวันที่ 1 ตุลาคม2553 ต้องปรับให้ได้รับเงินเดือนในอันดับคศ.1 ขั้น 13,240 บาทก่อน แล้วจึงสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี และ 3) นาย ค.ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วยคุณวุฒิปริญญาเอก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม2551 อัตราเงินเดือนแรกบรรจุ 13,110 บาท เมื่อผ่านการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม 2 ปีแล้ว และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู ในวันที่ 1 ตุลาคม2553 ต้องปรับให้ได้รับเงินเดือนในอันดับคศ.1 ขั้น 17,560 บาทก่อน แล้วจึงสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี

ยังมีคำอธิบายประกอบกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือ ต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ พ.ศ.2553 ที่น่าสนใจอีกหลายกรณี จะได้นำมาเสนอในโอกาสต่อไป

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ปี 54 ประเดิมใช้ข้อสอบคู่ขนาน

รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้รายงานผลการดำเนินงานของตน ในช่วงที่มารับตำแหน่งผอ.สทศ.คนใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ที่ผ่านมา ให้คณะกรรมการบริหาร สทศ.รับทราบว่า ได้มีการหารือกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของสทศ. เจ้าหน้าที่โรงพิมพ์ที่ต้องพิมพ์ ข้อสอบต่าง ๆ และคณะกรรมการออกข้อสอบทุกวิชาแล้ว โดยทุกคนรับปากจะพิมพ์ข้อสอบ ออกข้อสอบ และพร้อมดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้เดิมทั้งหมด เช่น การทดสอบอาชีวศึกษาระดับชาติ หรือ V-NET จะสอบในวันที่ 23 ม.ค. 54 การทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET สอบวันที่ 19-20 ก.พ. 54 และการทดสอบวัดความถนัดทั่วไป หรือ GAT และ ทดสอบวัดความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการหรือ PAT จำนวน 14 วิชา สอบวันที่ 5-8 มี.ค. 54 เป็นต้น รวมถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่คณะทำงานชุดเดิมของ ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน อดีต ผอ.สทศ.ลาออกยกชุด ว่าขณะนี้มีความพร้อมในเรื่อง ดังกล่าวแล้ว โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากชุดเดิม และผู้ที่มีความสามารถจากภาคอื่น ๆ มาช่วย ซึ่งทำให้บอร์ด สทศ.สบายใจมากขึ้น

“ในสัปดาห์นี้ผมจะเชิญผู้บริหารศูนย์สอบต่าง ๆ รวมถึงคณะกรรมการออกข้อสอบมาประชุมเพื่อชี้แจง และยืนยันถึงการดำเนินการจัดทดสอบต่าง ๆ ที่จะเป็นไปตามกำหนดเดิม และจะยืนยันเเรื่อง การออกข้อสอบและเริ่มใช้ข้อสอบคู่ขนานในการสอบ O-NET ของนักเรียนชั้น ม.6 ในปี 2554 เป็นครั้งแรก และต้องมาดูเรื่องการทำคลังข้อสอบ เพื่อพัฒนาข้อสอบและให้ได้ข้อสอบที่มีคุณภาพที่สุดด้วย”ผอ.สทศ.กล่าว

ครม.ไฟเขียว กฎ ก.ค.ศ.ผ่าทางตันเงินเดือนครู

ครูเฮ! ลั่น แท่งเงินเดือนใหม่ หลังลากยาวนาน 5 ปี"ชินวรณ์"ชี้ขรก.ครู 3 กลุ่ม ที่ได้อานิสสงค์ โดยเฉพาะครูผู้ช่วยที่บรรจุก่อนปี 47 จะขยับขึ้นแท่ง คศ.1 รับเต็มขั้น 10,770 บาท หากมีวุฒิ ป.เอก เพดานสูงสุด 17,560 บาท


นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิด เผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ก.ค.53 ได้เห็นชอบร่าง กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับเงินเดือนสูงกว่า หรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ พ.ศ.(...) ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2547 ที่มี พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ซึ่งกำหนดตาม มาตรา 44 ให้มีการออกกฎ ก.ค.ศ.กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่จะให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่า หรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ รวมถึงการกำหนดให้ใครไปอยู่ในอันดับใด ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันมีความพยายามที่จะนำเสนอเข้า ครม.แต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาได้ผ่านความเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ในวันถัดไปทันที

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ร่าง กฎ ก.ค.ศ. ดังกล่าว มีผลให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 3 กลุ่ม ได้รับเงินเดือนสูงกว่า หรือต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับ ดังนี้ 1.กลุ่มที่ได้รับเงินเดือนสูงกว่าขั้นต่ำ หรือต่ำกว่าขั้นต่ำของระดับเงินเดือน หรือครูที่ได้รับการบรรจุก่อนปี 2547 ซึ่งไม่สามารถปรับเข้าสู่แท่งเงินเดือนใหม่ได้ ผลของกฎ ก.ค.ศ.จะทำให้สามารถเข้าสู่แท่งเงินเดือนใหม่ ตามตารางเทียบขั้นเงินเดือนแนบท้าย ได้แก่ ครูผู้ช่วยที่จบปริญญาตรี หลักสูตร 4 ปี อัตราเงินเดือนแรกบรรจุ 7,940 บาท หากผ่านการพัฒนาอย่างเข้ม 2 ปี จะเข้าสู่แท่ง คศ.1 อัตราเงินเดือน 10,770 บาท, ครูผู้ช่วยที่จบปริญญาโททั่วไป เงินเดือนแรกบรรจุ 9,700 บาท หากผ่านการพัฒนาอย่างเข้ม 2 ปี จะเข้าสู่แท่ง คศ.1 อัตราเงินเดือน 13,240 บาท และครูผู้ช่วยที่จบปริญญาเอก หรือเทียบเท่า อัตราเงินเดือนแรกบรรจุ 13,110 บาท หากผ่านการพัฒนาอย่างเข้ม 2 ปี จะเข้าสู่แท่ง คศ.1 อัตราเงินเดือน 17,560 บาท

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกลุ่มที่ 2.กลุ่มที่เพดานเงินเดือนตัน ในอันดับ คศ.3 และ คศ.4 เช่น ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งเงินเดือนตันมาแล้ว 4-5 ปี ที่อัตราเงินเดือน 50,550 บาท จะได้รับการเลื่อนเข้าสู่ คศ.5 อัตราเงินเดือนที่ 51,590 บาท และ3.กลุ่มที่โอนย้ายจากบุคลากรทางการศึกษาอื่น มาเป็นข้าราชการครูที่ระดับเงินเดือนไม่เท่ากัน ให้สามารถรับเงินเดือนได้ในอัตราใกล้เคียงหรือสูงกว่า

“ร่างกฎ ก.ค.ศ.ดังกล่าว เป็นสิ่งที่ครูรอคอยมาตั้งแต่ปี 2547 เมื่อ ครม.ให้ความเห็นชอบ ก็จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และโอกาสในความก้าวหน้าของข้าราชการครูได้ ซึ่งเป็นโอกาสและความก้าวหน้าตามปกติที่ใช้กับ ข้าราชการพลเรือนมาแล้ว เพราะขณะนี้มีครูจำนวนหนึ่งยังไม่ได้เข้าสู่แท่งเงินเดือน คศ.1 เมื่อร่างกฎ ก.ค.ศ.ผ่านได้มี ครูโทรศัพท์มาขอบคุณ”นายชินวรณ์ กล่าว

ทำอย่างไรจึงได้ครูเก่งครูดี

เหตุผล หนึ่งของยุทธศาสตร์และมาตรการการปฏิรูประบบคุรุศึกษาของประเทศที่คณะอนุกรรม การคุรุศึกษาแห่งชาตินำเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการในสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่าง ยิ่งขณะนี้ คือ วิชาครูไม่สามารถดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่เก่งและดีมาเรียนครูและไม่ประกอบอาชีพ ครู หลักสูตรและกระบวน การผลิตครูขาดความลุ่มลึกของศาสตร์ที่จำเป็นสำหรับผู้ที่จะประกอบวิชาชีพครู ไม่ทันสมัย ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษา

รวม ไปถึงขาดความกลมกลืนระหว่างความเป็นสากลกับฐานทางสังคมและวัฒนธรรมไทย ไม่เน้นการปลูกฝังอย่างต่อเนื่องและจริงจังด้านคุณค่า คุณธรรม จิตวิญญาณของความเป็นครู จึงทำให้ครูไม่สามารถเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา

อีก ประการหนึ่งที่คณะอนุกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติเน้นย้ำ คือการขาดแคลนคณาจารย์ (ครูของครู) ที่มีคุณวุฒิ ประสบ การณ์สูง และมีความลุ่มลึกในสาระวิชาที่สอน เป็นเหตุให้ต้องพึ่งคณะอื่น เช่น วิทยา ศาสตร์ อักษรศาสตร์ ช่วยสอนสาระวิชาเอกให้ ซึ่งมีอุปสรรค ขาดความคล่องตัว สถาบันผลิตครูขาดความเป็นองค์รวมของการจัดศาสตร์ในสาขาครุศาสตร์/ศึกษา ศาสตร์ เพราะสถาบันผลิตครูที่มีอยู่แต่เดิมเปลี่ยนเป้าหมายการผลิตครูไปเน้นการ สร้างหลักสูตรของศาสตร์ต่างๆ จนเกิดเป็นคณะต่างๆ และกลายเป็นมหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบ

คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ จึงเป็นเพียงคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้รับความสนใจมาก สภาพการณ์เช่นนี้ส่งผลให้สถาบันผลิตครูขาดความพร้อมและความเข้มแข็งที่จะทำ หน้าที่ผลิตครูให้ได้ตามคุณภาพและมาตรฐานอันพึงประสงค์

ที่สำคัญคือ ขาดสถาบันกลางระดับชาติที่จะทำหน้าที่เสริมสร้างเอกภาพทางด้านนโยบาย คุณภาพและมาตรฐานการผลิต การใช้ และการพัฒนาครู คณาจารย์ และ บุคลากรทางการศึกษา ให้ศึกษาและวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมทั้งด้านวิชาการและ วิชาชีพทั้งระบบอย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็น ชัดเจนว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูปคุรุศึกษาของประเทศทั้งระบบ เพื่อให้มีการผลิตครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ประการ ดังกล่าวย่อมส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของผู้เรียน และเป็นการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา การเรียนรู้ของคนไทยได้ตามเป้าประสงค์ของการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ สองอย่างแท้จริง

เมื่อรัฐบาล โดยกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านคณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองยังไม่รับเรื่องการจัด ตั้งสถาบันคุรุศึกษาแห่งชาติ โดยให้กลับไปทบทวนอีกครั้ง แต่การดำเนินงานตามข้อเสนออีก 5 ประการก็ควรดำเนินต่อไป

ประการแรก คือการส่งเสริมนวัตกรรม หลักสูตรการผลิตครูที่หลากหลายโดยมีมาตรการดังนี้

1.ศึกษา วิจัย พัฒนาองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมหลักสูตรให้เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง

2.ปรับ ปรุงโครงสร้างและสาระหลัก สูตรการผลิตครูพันธุ์ใหม่ให้มีความหลากหลาย เช่น หลักสูตร 4 + 1, 4 + 2, 5 + 1, หลักสูตร 2 ปริญญา และหลักสูตรอื่น รวมทั้งให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์

3.ปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรระดับบัณฑิต ศึกษาให้ชัดเจนระหว่างหลักสูตรสำหรับผู้ที่จบปริญญาตรีสาขาวิชาชีพอื่น และหลักสูตรสำหรับผู้ที่จบปริญญาตรีสาขาวิชาการศึกษา

นอกจากนั้นยังต้องยกเครื่องระบบ บริหารงานบุคคลของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เหมาะสมกับการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพชั้นสูง

มาตรการในการดำเนินงานมีหลายประการ จะได้ยกมากล่าวถึงต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ก.ค.ศ.ไฟเขียวร่าง พ.ร.ฎ.ขึ้นเงินเดือนครู 5% เร่งชง กงช.ภายใน 16 ก.ค.นี้

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า การประชุม ก.ค.ศ.เมื่อเร็วๆ นี้ ได้พิจารณาร่างพระราชกฤษฎี (พ.ร.ฎ.) การปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่...) พ.ศ.(...) พร้อมด้วยบัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ท้ายร่าง พ.ร.ฎ.ดังกล่าว ซึ่งได้มีการปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากอัตราปัจจุบันที่ใช้อยู่ โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.พร้อมด้วยตารางการปรับอัตราเงินเดือนฯ แนบท้ายร่าง พ.ร.ฎ.ดังกล่าว และจะนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ (กงช.) ภายในวันที่ 16 ก.ค.53

...สำหรับตารางการปรับอัตราเงินเดือนฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 นี้ จะส่งผลให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับเงินเดือนสูงขึ้น ดังนี้

อันดับครูผู้ช่วย จากเดิม 7,940-16,840 บาท ปรับเพิ่มเป็น 8,340-17,690 บาท

อันดับ คศ.1 จากเดิม 7,940-27,500 บาท เป็น 8,340-28,880 บาท

อันดับ คศ.2 จากเดิม 12,530-33,540 บาท เป็น 13,160-35,220 บาท

อันดับ คศ.3 จากเดิม 12,530-47,450 บาท เป็น 13,160-49,830 บาท

อันดับ คศ.4 จากเดิม 23,230-50,550 บาท เป็น 24,400-53,080 บาท

และอันดับ คศ.5 จากเดิม 28,550-64,340 บาท เป็น 29,980-67,560 บาท

รมว.ศึกษาธิการ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูฯ นั้น ขณะนี้ กงช.ได้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เลขาธิการ ครม.ได้ส่งหนังสือเรื่องการยื่นร่าง พ.ร.บ.เงิน เดือนฯ มาให้ ศธ.ให้ความเห็นนั้น ก็ได้มอบหมายให้ ก.ค.ศ.ดำเนินการว่า ศธ.เห็นชอบและยืนยันตามโครงสร้างบัญชีเงินเดือนที่ ได้เสนอไป เพื่อให้การปรับโครงการสร้างเงินเดือนของข้าราชการครูฯ ได้เท่าเทียมกับข้าราชการในกลุ่มอื่น



ที่มา - สยามรัฐออนไลน์
http://www.siamrath.co.th/?q=node/39556

-----------------------------------------------------------------

ครูเฮ! เงินเดือนขึ้น


รัฐบาลไฟเขียวเสนอขึ้นเงินเดือนครู 5% หวังรักษาคนเก่งไว้ในระบบ


วันนี้ (30 มิ.ย.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กล่าวว่า จากการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณการปรับปรุงค่าตอบแทน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดึงดูด และรักษาคนเก่ง คนดีไว้ในระบบราชการ และเพื่อยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิตของข้าราชการ

สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ.2554 รัฐบาลได้จัดงบกลางรายการค่าใช้จ่าย การปรับบัญชีเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนรายเดือนของบุคลากรภาครัฐ จำนวน 39,792 ล้านบาท ซึ่งทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) ได้เชิญเลขานุการคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการทุกประเภท และหน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการปรับบัญชีเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนรายเดือนบุคลากรภาครัฐมาหารือกันแล้ว มีมติเห็นชอบให้ข้าราชการทุกประเภท จัดทำข้อเสนอการปรับบัญชีเงินเดือนในอัตราร้อยละ 5 เท่ากัน จากนั้น ให้ส่งร่างกฎหมายการปรับขึ้นเงินเดือนดังกล่าวให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ พิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ (กงช.) ภายในวันที่ 16 ก.ค.นี้ เพื่อเสนอ กงช.ต่อไป.




ที่มา - เดลินิวส์ออนไลน์
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=8&contentID=75278

เปิดแท่งเงินเดือน “ครู” พุ่งขึ้น18%

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าการผลักดันร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.(...) ที่ยกร่างขึ้นใหม่ว่า จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งตนได้ยืนยัน ที่จะเสนอปรับอัตราเงินเดือนขั้นสูง จาก 64,340 บาท เป็น 66,480 บาท แม้ว่าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) คณะกรรมการเงินเดือนแห่งชาติ (กงช.) และสำนักงบประมาณ จะไม่เห็นด้วยก็ตาม เนื่องจากจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับข้าราชการประเภทอื่นๆ เช่น อัตราเงินวิทยฐานะ ของผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ที่ ก.ค.ศ.กำหนดจากอัตราสูงสุดเป็น 15,600 บาท ซึ่งจะเหลื่อมล้ำกับอัตราเงินประจำตำแหน่งสูงสุด ประเภทวิชาการ อย่าง ศาสตราจารย์ ระดับ11 ระดับทรงคุณวุฒิของข้าราชการพลเรือนสามัญ

ทั้งนี้ ตนจะประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะเร่งนำเสนอ ครม.เนื่องจากรัฐบาลต้องการผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาภาพรวมทั้ง ระบบการศึกษา ในด้านการสอนของข้าราชการครูฯ ที่มีนายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ เป็นประธาน

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ดี ได้มอบหมายให้นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ ปลัด ศธ.และนายประเสริฐ งามพันธุ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. นำความเห็นของหน่วยงานต่างๆ มาศึกษาเปรียบเทียบบัญชีอัตราเงินเดือน ขั้นต่ำ ขั้นสูง ของข้าราชการครูฯ ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแนบท้าย พระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน กับร่างบัญชีเงินเดือนข้าราชการครูฯ ฉบับใหม่ มีดังนี้

ครูผู้ช่วย ขั้นต่ำชั่วคราว ยังคงอัตราเดิมที่ 7,940 บาท/เดือน, ขั้นต่ำ ยังคงอัตราเดิมที่ 8,700, ขั้นสูง ยังคงอัตราเดิมที่ 16,840

ส่วน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (คศ.1) ขั้นต่ำชั่วคราว อัตราเดิม 7,940 อัตราใหม่ 8,130 ขั้นต่ำ ยังคงอัตราเดิมที่ 11,930 ขั้นสูง อัตราเดิม 27,500 อัตราใหม่ 29,700 เพิ่มขึ้น 8%,

คศ.2 ชำนาญการ ขั้นต่ำชั่วคราว ยังคงอัตราเดิมที่ 12,530 ขั้นต่ำ ยังคงอัตราเดิมที่ 15,410 ขั้นสูง อัตราเดิม 33,540 อัตราใหม่ 36,020 เพิ่มขึ้น 7.39%

คศ.3 ชำนาญการพิเศษ ขั้นต่ำชั่วคราว ยังคงอัตราเดิมที่ 12,530 ขั้นต่ำ ยังคงอัตราเดิมที่ 18,910 ขั้นสูง อัตราเดิม 47,450 อัตราใหม่ 50,550เพิ่มขึ้น 6.33%

คศ.4 เชี่ยวชาญ ขั้นต่ำ ยังคงอัตราเดิมที่ 23,230 ขั้นสูง อัตราเดิม 50,550 อัตราใหม่59,770 เพิ่มขึ้น 18.9%

และ คศ.5 เชี่ยวชาญพิเศษ ขั้นต่ำ ยังคงอัตราเดิมที่ 28,550 ขั้นสูง อัตราเดิม 64,340 อัตราใหม่ 66,480 เพิ่มขึ้น 3.32%




ที่มา - สยามรัฐออนไลน์

เตรียมสอบบรรจุครูผู้ช่วย สพฐ.ครูใหม่ 1.7 หมื่นคน ปี 2554

เตรียมสอบบรรจุครูผู้ช่วย สพฐ.ครูใหม่ 1.7 หมื่นคนปีงบประมาณเมษายน 2554

นายกมล ศิริบรรณ ผอ.สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ ในโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด หรือ เออร์ลี่รีไทร์ ปีงบประมาณ 2554 ของ สพฐ. ว่า ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ทำหนังสือ ขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการใช้เงินเหลือจ่ายของ สพฐ. ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อการบรรจุบุคลากรทดแทนข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาที่เข้าโครงการ เออร์ลี่รีไทร์ จำนวน 12,860 คน ขณะเดียวกันได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อขออัตราเกษียณอายุราชการปี 2552 จำนวน 4,160 อัตรา คืนตามมติ ครม. ที่ให้คืนอัตราเกษียณฯปกติทั้ง 100% แก่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เนื่องจากขาดแคลนครู
"เลขาธิการ กพฐ.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมารอ เพื่อเตรียมที่จะจัดสรรอัตราคืนแก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) แล้ว และได้มีการสำรวจข้อมูลของแต่ละเขตพื้นที่ฯ แล้วว่าขาดอัตราเท่าใด ดังนั้นหาก คปร.อนุมัติ สพฐ.จะเร่งจัดสรรให้ทันที เพื่อให้เขตพื้นที่ฯจัดสรรอัตราลงสถานศึกษาต่อไป" นายกมลกล่าวและว่า สำหรับอัตราที่เขตพื้นที่ฯได้คืนนั้น สามารถนำไปเปิดสอบใหม่หรือจะเรียกจากบัญชีเดิมมาบรรจุก็ได้ ทั้ง นี้จะมีการสำรวจอัตราว่างในสถานศึกษาทั่วประเทศอีกครั้งในเดือน ก.พ. 2554 ก่อน จะมีการเปิดสอบพร้อมกันทั่วประเทศในเดือน
เม.ย. 2554 และบรรจุเดือน พ.ค. 2554 เพื่อให้ทันกับการเปิดภาคเรียน ที่ 1/2554 อย่าง ไรก็ตามเบื้องต้นคาดว่าจะ ได้อัตราคืนมาบรรจุทั้งจากเกษียณปกติและเออร์ลี่รีไทร์รวม 17,020 อัตรา เนื่องจากจะได้คืนอัตราเออร์ลี่รีไทร์ 100% เช่นกัน

ที่มา - เดลินิวส์ออนไลน์

วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตัวอย่างข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย

แนวข้อสอบวิชาความรอบรู้ (ครูผู้ช่วย)

1. นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลข้อใดกล่าวผิด?

ก. การสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข. การรักษาและเพิ่มรายได้ของประชาชน

ค. การลดภาระค่าครองชีพของประชาชน

ง. การพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต

2. นโยบายระยะการบริหารราชการ 3 ปี ข้อใดกล่าวผิด

ก. ความมั่นคงของรัฐ, เศรษฐกิจ

ข. สังคม และคุณภาพชีวิต การสร้างความสมานฉันท์

ค. ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, วิทยาศาสตร์และวิจัย

ง. การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

3. นโยบายในการจัดการศึกษาของ รมว.กระทรวงศึกษา ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. เรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ

ข. การสร้างแหล่งเรียนรู้ราคาถูก

ค. การพัฒนาครู TEACHER CHANNEL

ง. ส่งเสริมองค์ความรู้และเน้น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์

4. ข้อใดไม่ใช่นโยบายเรียนฟรี 15 ปี ของ สพฐ?
ก. ค่าหนังสือเรียน

ข. ค่าอุปกรณ์การเรียน

ค. ค่าเครื่องแบบนักเรียน

ง. ค่าเล่าเรียน

5. กิจกรรมข้อใดเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันภัยจากยาเสพติด?

ก. Democracy

ข. Decency

ค. Drug-free

ง. Decentenzation

6. ข้อใดหมายถึงวิสัยทัศน์การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง

ก. คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ

ข. พัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่

ค. พัฒนาคุณภาพครูยุคใหม่

ง. พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการใหม่

7. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

ก. นักเรียนสามารถเรียนได้ตามความถนัดของตนเอง

ข. นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนการสอน

ค. ครูไม่ต้องเหนื่อยในการสอนเพราะมีคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

ง. ช่วยครูสรุปหลักการ เนื้อหา สาระของบทเรียนและทบทวนได้ตามความต้องการ

8. สิ่งใดใช้เพื่อเป็นความรู้ฐานข้อมูลเครือข่าย

ก. เวิล์ดไวด์เว็บ

ข. กระดานข่าว

ค. ไอซีคิว

ง. อีเมลย์

9. หนังสือต่างๆ ที่จัดเก็บอยู่ในรูปซีดีรอม และเรียกอ่านด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ หมายถึงข้อใด

ก. อิเล็กทรอนิกส์บุ๊ค

ข. มัลติมีเดีย

ค. อีเมล์

ง. เวิล์ดไวด์เว็บ

10. พระราชพิธีที่เชื่อกันว่าเป็นการต้อนรับพระอิศวรและพระนารายณ์ลงมาเยี่ยมโลกคือข้อใด

ก. พระราชพิธีตรียัมปวาย

ข. พระราชพิธีเกศากันต์

ค. พระราชพิธีสงกรานต์

ง. พระราชพิธีสารท

11. ประเพณีในวันเพ็ญเดือนสองของชาวล้านนา หมายถึงข้อใด


ก. ประเพณียี่เป็ง

ข. ประเพณีสงกรานต์

ค. วันลอยกระทง

ง. ประเพณีตักบาตรดอกไม้

12. “เมตตา” หมายถึงข้อใด

ก. ความสงสาร

ข. ความรัก ความปรารถนาดี

ค. ความเบิกบานยินดี

ง. ความวางใจเป็นกลาง

13. รูปแบบการพัฒนาตามแนวพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้แก่ข้อใด

ก. ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ
ข. ฝายแม้ว
ค. แก้มลิง
ง. แกล้งดิน

14. เป้าหมายปีการศึกษาเฉลี่ยของคนไทยเมื่อสิ้นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10
ก. 8 ปี
ข. 9 ปี
ค. 10 ปี
ง. 11 ปี

15. การคาดการณ์อายุเฉลี่ยของคนไทยเมื่อสิ้นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 กี่ปี

ก. 65 ปี
ข. 70 ปี
ค. 75 ปี
ง. 80 ปี
16. “ศตวรรษใหม่แห่งเอเชีย” หมายถึงประเทศใด
ก. ลาว – กัมพูชา
ข. พม่า – เวียดนาม
ค. จีน – ญี่ปุ่น
ง. จีน – อินเดีย

17. พื้นฐานของปรัชญา“เศรษฐกิจพอเพียง” คือข้อใด

ก.ความพอมี พอกิน พอใช้

ข.ความพอประมาณ

ค.ความมีเหตุผล

ง.ความเพียร มีสติ ปัญญาและความรอบคอบ

18. ข้อใดกล่าวผิด

ก. การศึกษา หมายความว่า กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงาม

ข. การประกันคุณภาพภายใน” หมายความว่า การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายใน

ค.มาตรฐานการศึกษา หมายความว่า ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการ

ง. ครู หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการวิจัย

19. ข้อใดคือความมุ่งหมาย ของการจัดการศึกษา

ก. เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบรูณ์

ข. เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง

ค. เพื่อเป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน

ง. เพื่อ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา

20. รูปแบบการศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน หมายถึงข้อใด

ก. การศึกษาในระบบ

ข. การศึกษานอกระบบ

ค. การศึกษาตามอัธยาศัย

ง. การศึกษาขั้นพื้นฐาน

21. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการศึกษาภาคบังคับ

ก. อายุอย่างเข้าปีที่ 6 จนถึงย่างเข้าปีที่ 17

ข. อายุย่างเข้าปีที่ 7 จนถึงย่างเข้าปีที่ 16

ค. อายุย่างเข้าปีที่ 6 จนถึงย่างเข้าปีที่ 16

ง. อายุย่างเข้าปีที่ 7 จนถึงย่างเข้าปีที่ 15

22. แนวทางการจัดการศึกษา ตาม พรบ.การศึกษา พ.ศ. 2542 คือข้อใด

ก. ยึดหลักว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ถือว่าเป็นผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด

ข. เน้นความสำคัญทั้งความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และบูรณาการ

ค. จัดกระบวนการเรียนรู้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน

ง. ถูกทุกข้อ

23. กพฐ. หมายถึงข้อใด ?

ก. คณะกรรมการสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ข. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ค. กรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ง. กรรมการกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

24. พรบ. สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 มีผลบังคับใช้เมื่อใด


ก. 11 มิถุนายน 2546

ข. 12 มิถุนายน 2546

ค. 13 มิถุนายน 2546

ง. 14 มิถุนายน 2546

25. ต่อไปนี้บุคคลในข้อใดต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

ก. วิทยากรพิเศษ

ข. ผู้ที่ทำหน้าที่การสอนเป็นครั้งคราว

ค. ครู สรช.

ง. ผู้บริหารสถานศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่เปิดสอน ตำกว่าระดับปริญญา

26. หากพบครูปฏิบัติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครูดำเนินการข้อใดไม่ถูกต้อง


ก. ทำเป็นหนังสือกล่าวหายื่นต่อคุรุสภา

ข. ยื่นเรื่องกล่าวหาภายในหนึ่งปีนับจากวันที่รับทราบการกระทำผิด

ค. ถ้าครูปรับปรุงพฤติกรรกมดีขึ้นก็ยื่นถอนเรื่องการกล่าวหาเพื่อระงับการดำเนินการ

ง. เลขาคุรุสภาเสนอเรื่องต่อกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ

27. การพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสามารถทำได้ตามข้อใด

ก. 1 ปี

ข. 3 ปี

ค. 5 ปี

ง. ไม่เกิน 5 ปี

28. ข้อใดไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

ก. รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นทีการศึกษา

ข. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ค. ครูเชี่ยวชาญพิเศษ

ง. เลขา กพฐ.

29. ข้อใดกล่าวผิด

ก. ครูหมายความว่าบุคคลที่ประกอบวิชาชีพหลักด้านการศึกษาการเรียนการสอน

ข. ผู้บริหารสถานศึกษาหมายความว่าบุคคลซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาภายในเขตพื้นที่

ค. บุคลากรอื่นทางการศึกษาหมายความว่าศึกษานิเทศก์

ง. หน่วยงานทางการศึกษาหมายความว่าสถานศึกษาหรือหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่กำกับ สนับสนุนส่งเสริมการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน

30. บุคคลในข้อใดพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

ก. คุรุสภา ข. สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา

ค. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ

ง. สำนักงานเลขาธิการมาตรฐานวิชาชีพ

31. ผู้ที่จะขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพต้องมีคุณสมบัติตามข้อใด

ก. อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์

ข. อายุไมต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

ค. มีวุฒิปริญญาโทภาคบริหารสำหรับผู้บริหาร

ง. ผ่านการทดสอบความรู้ตามที่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพกำหนด

32. ใครดำรงดำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนปัจจุบัน

ก. นายแพทย์เกษม วัฒนชัย

ข.นายจุลินทร์ ลักษณวิศิษฐ์

ค. นายชินภัทร์ ภูมิรัตน์

ง. นายชินวรณ์ บุญเกียรติ

33. วิชาชีพ หมายถึงข้อใด


ก. วิชาชีพครู

ข. วิชาชีพบริหารการศึกษา

ค. วิชาชีพบุคลากรทางการศึกษาอื่น

ง. ถูกทุข้อ

34. คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่ มีกี่คน

ก. 9 คน

ข. 12 คน

ค. 17 คน

ง. 28 คน

35. ข้อใดไม่ใช่โทษทางวินัย


ก. ภาคทัณฑ์ ข. ตัดเงินเดือน

ค. ปลดออก ง. ให้ออก

36. ข้าราชการครูออกจากราชการครูเมื่อใด

ก. ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

ข. ลาออก

ค. พ้นราชการตาม กฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญ

ง. ถูกทุกข้อ

37. ผู้มีอำนาจปรับปรุงบัญชีเงินเดือนคือใคร


ก. กคศ. ข. สกศ.

ค. กงช. ง. ครม.

38. ข้อใดหมายถึงโรคที่ต้องห้ามตามมาตรา 30(5)


ก. วัณโรคในระยะติดต่อ

ข. โรคเท้าช้าง

ค. โรคติดยาเสพติดให้โทษ

ง. โรคพิษสุราเรื้อรัง
39. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาขออนุญาตลาไปศึกษาฝึกอบรม เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาหรือวิชาชีพ โดยอนุมัติ ก.ค.ศ. หรือ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการมีสิทธิได้รับการพิจารณา เลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างลาไปศึกษา ไม่เกินครั้งละครึ่งขั้น และมีผลการศึกษาตามที่กำหนด ข้อใดกล่าวผิด

ก. ระดับปริญญาตรี มีผลการศึกษาสะสมตามหลักสูตร ไม่ต่ำกว่า 2.5

ข. ระดับปริญญาโท มีผลการศึกษาสะสมตามหลักสูตร ไม่ต่ำกว่า 3.2

ค. ระดับปริญญาเอก มีผลการศึกษาสะสมตามหลักสูตร ไม่ต่ำกว่า 3.5

ง. กำหนดผลการศึกษาตามการอนุมัติการจบหลักสูตรของสถาบันฯ

40. ข้อใดคือความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง ที่ร้ายแรง


ก. ศาลพิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิด

ข. กระทำความผิดวินัยไม่ร้ายแรง แล้วทำหนังสือสารภาพต่อผู้บังคับบัญชา

ค. ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก หรือหนักกว่าจำคุก

ง. ถูกทุกข้อ

41. การลามีกี่ประเภท


ก. 5 ประเภท

ข. 7 ประเภท

ค. 9 ประเภท

ง. 11 ประเภท

42. การลาคลอดบุตรได้รับเงินเดือนครั้งหนึ่งได้ไม่เกินกี่วัน

ก. 30 วัน

ข. 45 วัน

ค. 60 วัน

ง. 90 วัน

43. ข้อใดหมายถึงการศึกษาภาคบังคับ ?

ก. อนุบาล – ป.6

ข. ป.1 – ม.3

ค. ป.1 – ม.6

ง. ม.1 – ม.6

44. “ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน” ควรลงโทษระดับใด ?

ก. ว่ากล่าวตักเตือน

ข. ทำทัณฑ์บน

ค. ตัดคะแนนความประพฤติ

ง. ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

45. ข้อใดเป็นเวลาเริ่มทำงานของสถานศึกษา ?


ก. เริ่มทำงาน 08.00 น. ถึง 16.00 น.

ข. เริ่มทำงาน 08.15 น. ถึง 16.45 น.

ค. เริ่มทำงาน 08.30 น. ถึง 16.30 น.

ง. เริ่มทำงานตามตารางเรียนของทาง โรงเรียน

46. จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าใด จึงประกอบกันเป็นสภาผู้แทนราษฎรได้
ก. 400 คน
ข. 420 คน
ค. 456 คน
ง. 480 คน

47. การแบ่งเขตเลือกตั้งสำหรับสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน แบ่งตามข้อใด

ก. หลายๆ อำเภอติดต่อกันรวมเป็นเขต
เลือกตั้ง
ข. จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง
ค. กลุ่มจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง
ง. ภูมิภาคเป็นเขตเลือกตั้ง
48. แผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติเกิดขึ้นวันที่ ใดของไทย

ก. 11 มกราคม 2553

ข. 12 มกราคม 2553

ค. 13 มกราคม 2553

ง. 14 มกราคม 2553

49. “วิกฤตดูไบเวิลด์” มีสาเหตุมาจากข้อใด

ก. ธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์

ข. วิกฤติราคาน้ำมัน

ค. วิกฤตเศรษฐกิจโลก

ง. วิกฤตค่าเงินดูไบ

50. หลักการสำคัญของ AFTA ข้อใดสำคัญที่สุด
ก. การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า

ข. การลดภาษีการค้า

ค. การยกเลิกมาตรการปริมาณสินค้า

ง. การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน

สรุปแนวข้อสอบครู

สรุปแนวข้อสอบ

1. เทคโนโลยีทางการศึกษา…..(ขบวนการ วิธีการ ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา)
2. เทคโนโลยีทางการศึกษามี 3 ชนิด (1.วัสดุ 2. เครื่องมือหรืออุปกรณ์ 3. วิธีการ)
3. เทคโนโลยีทางการศึกษาที่เป็นวัสดุ ได้แก่ ชอล์ค ดินสอ แผนที่)
4. เทคโนโลยีทางการศึกษาที่เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์….(คอมพิวเตอร์ สไลด์ เครื่องฉายภาพยนตร์)
5. เทคโนโลยีทางการศึกษาที่เป็นวิธีการ ได้แก่…(การทดลอง การสาธิต บทเรียนโปรแกรม)
6. MULTIMEDIA……….(สื่อประสม ได้แก่ SOUND ภาพ ข้อความ )........ออกสอบ สปจ. ปี 2546
7. ถ้าเปรียบเทคโนโลยีทางการศึกษาเหมือนต้นไผ่ นวัตกรรมจะหมาย……….(หน่อไม้)
8. การประเมินผลที่ สปช. ส่งเสริมให้โรงเรียนปฏิบัติคือ……………….(การตรวจผลงาน)
9. พบเด็กขาดเรียนบ่อย …. …(ปรับปรุงวิธีสอนให้น่าสนใจ ไม่ให้การบ้านมากเกินไป ไม่ลงโทษโดยวิธีให้อับอาย)
10. BIG BOOK อยู่ขั้นใดของ ม.ป.ภ………. (ขั้นที่ 4)
11. มปภ. มี 5 ขั้น (1. ครูอ่าน 2. นักเรียนเล่าเรื่อง 3. ครูและนักเรียนเขียน 4. นักเรียนทำหนังสือใหญ่ 5. ชื่นชมผลงาน)
12. กลุ่มประสบการณ์ใดที่มีอัตราเวลาเรียนตรงข้ามกับกลุ่มทักษะ……(กพอ. สปช.)
13. ความต้องการขั้นต่ำสุด และสูงสุดของ มาสโลว์…(ความต้องการด้านร่างกาย – ความสำเร็จ)
14. วิชาภาษาอังกฤษ ป. 1 เรียนกี่คาบ…..(120 คาบ)
15. วิชาภาษาอังกฤษ ป. 2 - 4 เรียนกี่คาบ…..(240 คาบ)
16. วิชาภาษาอังกฤษ ป. 5 – 6 เรียนกี่คาบ…..(600 คาบ)
17. ชั้น ป. 3 – 4 คัดลายมือแบบใด………..(ตัวบรรจงครึ่งบรรทัด - ตัวหวัดแกมบรรจง)
18. วิชา สปช. หน่วยการเรียนใดมีอยู่ตั้งแต่ชั้น ป.1 – ป.6 คือ…...(ข่าวเหตุการณ์สำคัญ)
19. ป. 02 คือ…..…..(แบบกรอกคะแนนการประเมินผลประจำปี)
20. ป. 02 - 2 คือ……….(สมุดประจำชั้น จะอยู่ในเล่มเดียวกันกับ ป.02)
21. ข้อใดไม่สัมพันธ์กัน….. (ป.01 รบ.1 ต.)
22. เกณฑ์การจบหลักสูตรมัธยมต้น ต้องเรียนไม่น้อยกว่ากี่หน่วย….(90 หน่วย)
23. PORT FOLIO หมายถึง…..(แฟ้มสะสมงาน)
24. กระบวนการประเมินผล PORT FOLIO…..(แฟ้มสะสมงาน)
(1) จัดเก็บชิ้นงาน
(2) คัดเลือกชิ้นงานที่ดี
(3) นำเสนอความคิด บุคลิกภาพลงในแฟ้ม
(4) สะท้อนความคิดเห็นความรู้สึกต่อชิ้นงาน
(5) ตรวจสอบความเหมาะสมของแฟ้มสะสมงาน
(6) ประเมินและปรับปรุงให้สมบูรณ์
(7) ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมเป็นปัจจุบัน
(8) แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและชื่นชมในความสำเร็จ
25. ขั้นสุดท้ายของ PORT FOLIO คือ….(จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและชื่นชมในความสำเร็จ)
26. มปภ. เน้นวิชาใด…(ภาษาไทย)
27. การเรียนการสอนปัจจุบัน เน้นสื่อการเรียนการประเภทใด (MULTI MEDIA)
28. ข้อใดคือคอมพิวเตอร์ช่วยสอน………………………...(CAI)
29. เวลาเรียนระดับประถมศึกษา 1 คาบมีกี่นาที…………. (20 นาที)
30. อำเภอหนึ่งมีกลุ่มโรงเรียน 9 กลุ่มโรงเรียน จะมี กปอ.กี่คน….(12 คน)
31. โรงเรียนขนาดเล็ก มีครูไม่ครบชั้น ควรใช้สื่อประเภทใด……(RIT)
32. I.Q คนปกติอยู่ในช่วงใด….(90 – 110)
35. ใครเป็นผู้อนุมัติผลการเรียน ม.ต้น……(สถานศึกษา)
36. การทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ มีกำหนดระยะเวลา….(1 ปี)
37. ในระหว่างปี นักเรียนคนใดมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีมากและมีวุฒิภาวะเหมาะสมที่จะ เลื่อนไปเรียนในชั้นที่สูงขึ้น ให้สั่งเลื่อนไปเรียนในชั้นที่สูงขึ้น ภายใน….(1 กันยายน ของปีการศึกษานั้น)
38. วิธีการประเมินผลการเรียน……….ออกสอบ ปี 2543
- ก่อนจัดการเรียนการสอน ….เพื่อตรวจสอบความรู้พื้นฐานและทักษะเบื้องของนักเรียน
- ระหว่างภาคเรียน ……….….เพื่อพัฒนาการเรียนของนักเรียน และเพื่อประเมินผลการผ่านจุดประสงค์
- ปลายภาคเรียน ………….….เพื่อตรวจสอบความรู้ความสามารถตามที่กำหนด
39. ประสบการณ์นามธรรมสูงสุดของ เอ็ดกา เดล คือ……..…(วัจนสัญลักษณ์).......ออกสอบ ปี 2543
40. ระบบการทำงานคอมพิวเตอร์…………… (Input - Process - Output)
41. การสอนวิทยาศาสตร์ควรจัดสอนที่ใดดีที่สุด…(ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์)
42. ห้อง Sound Lab ใช้ประโยชน์กับวิชาใด…… ทุกวิชา ………ออกสอบ
43. โครงสร้างวิชาคณิตศาสตร์…(จำนวน พีชคณิต การวัด เรขาคณิต สถิติ)
44. โครงสร้างวิชาคณิตศาสตร์ ป. 1 – 2 …( จำนวน - การวัด - เรขาคณิต)
45. ระดับผลการเรียน 2 หมายถึง… (ผลการเรียนปานกลาง)…….ออกสอบ
46. ถ้านักเรียนจะขอย้ายสถานศึกษา จะใช้เอกสารใด…… (ป. 04)
47. การอุทธรณ์ ให้อุทธรณ์อย่างไร…(ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง)
48. การร้องทุกด้วยวาจา ร้องทุกข์เมื่อใด………( )
49. ระดับใดไม่ต้องสอบปลายภาคเรียน….(ป. 1- 3 - 5 )
50. รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มีกี่มาตรา (336 มาตรา)
51. รัฐมนตรีกี่คน….(36 คน รวมทั้งนายกรัฐมนตรี)
52. รัฐธรรมนูญใหม่เลือกตั้งแบบใด
- แบบแบ่งเขตเดียวเบอร์เดียว จำนวน 400 คน
- แบบัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน
53. ส.ส.กี่คน….(500 คน)
54. วิชาพุทธสาสนา จัดสอนในชั้นใด…(ให้นักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 – 2 ที่นับถือศาสนาพุทธ เรียนหน่วยที่ 1 – 10 ส่วนนักเรียนอื่นเรียนหน่วยที่ 1 – 6)
55. ข้อใดไม่ใช่จุดมุ่งหมายของการเรียนรู้และการสอน……………ออกสอบ กทม.2542/ สปจ.ศรีสะเกษ 2543
‏א. พุทธิพิสัย
‏ב. จิตพิสัย
‏ג. ทักษะพิสัย
(ง) สังคมพิสัย
56. ครูลาคลอดบุตร ได้กี่วัน…………….(90 วัน)......ออกสอบ กทม. ปี 2545
57. ลากิจต่อเนื่องจากลาคลอด 90 วัน แล้ว ลาได้กี่วัน….(150 วันทำการ)……ออกสอบ ปี 2543
58. การลงโทษนักเรียนมีกี่สถาน…(6 สถาน)
59. ลาประเภทใดไม่ต้องรออนุญาต…..(การเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพล).......ออกสอบ กทม. ปี 2545
60. ป. 5 – 6 เรียนกี่คาบต่อสัปดาห์…(30 คาบ)
63. ครูต้องไปถึงโรงเรียนก่อนเวลา….(08.15) กลับหลังเวลา……(16.45 น.)…..ออกสอบ
64. เวลาทำราชการปกติ คือ….(08.30 – 16.30 น.)…………….ออกสอบ สปจ.2542
65. การจัดตั้ง กรม สปช. ใช้กฎหมายใด….(พระราชบัญญัติ)………..ออกสอบ
66. กลุ่มโรงเรียน มี 9 โรง มีกรรมการกลุ่ม….(ผู้บริหาร 9 คน ผู้แทนครูครึ่งหนึ่ง 5 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 รวม 19 คน)
67. การจัดตั้ง ยุบเลิกเขตจังหวัด ใช้กฎหมายใด………..(พระราชบัญญัติ)
68. การจัดตั้ง ยุบเลิก สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.)ใช้กฎหมายใด…...(พระราชบัญญัติ)
69. ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอ สังกัด….(กระทรวงมหาดไทย)….ออกสอบ ปี 2543
70. ใครเป็นผู้ประกาศรายชื่อส่งเด็กเข้าเรียน….(คณะกรรมการการประถมศึกษาอำเภอ)…..ออกสอบ ปี 2543
71. เด็กเขียนมือซ้ายเพราะ…..(ติดอ่าง)
72. ปีเข้าเรียนนับอย่างไร…. (ปีปฏิทิน)
73. เด็กขาดเรียนเกิน 7 วัน ตาม พรบ.ประถมศึกษา 2523 ปรับ (ไม่เกิน 1,000 บาท)….ออกสอบ ปี 2543
74. ถ้าสอบได้จะได้รับบรรจุ และรับเงินเดือนระดับใด…(อ. 1 ระดับ 3 – 5)
75. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ….(พ.ศ.2540 – 25400)
76. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 ….(พ.ศ.2503 – 25406)
77. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ….(เน้นคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา)
78. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 กำหนดให้รัฐจัดการศึกษาโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย (12 ปี)
79. วินัยที่ดีที่สุดคือ….(วินัยในตนเองของทุกคน)
80. องค์ประกอบของการจูงใจ…(1. ผู้เข้ารับการจูงใจ 2. วิธีการจูงใจ 3. เป้าหมายการจูงใจ)
81. ความต้องการของมนุษย์ตามทฤษฎีของ มาสโลว์ มีกี่ขั้น…(5 ขั้น)
82. ข้อใดเป็นปัจจัยกระตุ้นให้คนทำงาน……..(ความสำเร็จของงาน)
83. ข้อใดเป็นปัจจัยบำรุงจิตหรือปัจจัยค้ำจุน….(สภาพการทำงาน)
84. ข้อใดเป็นเทคนิคการจูงใจ….(การแบ่งงานให้ชัดเจน 2. การมอบหมายงานให้เหมาะสม
3. การกำหนดค่าตอบแทนให้เหมาะสม)
85. ศูนย์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ คือ….(NECTEC)………ออกสอบ ปี 2543
86. ถ้าต้องการอัดสำเนาจำนวนมาก ๆ ควรใช้เครื่องมือชนิดใด…(COPY PRINTER)
87. ต้องการฉายภาพนำเสนอข้อมูลในการประชุม ควรใช้เครื่องมือชนิดใด….(PROJECTOR)
88. ต้องการอ่านรหัสแท่งใช้เครื่องมือ….(BARCODE READER)
89. เครื่องแปลงสัญญาณจากคอมพิวเตอร์สู่ ทีวี คือ……(TV CODER)….ออกสอบ ปี 2543
90. ข้อใดหมายถึงการสอนแบบสืบสวนสอบสวน…..(INQUIRY METHOD)
91. ข้อใดเป็นวิธีสอนที่ครูต้องสร้างสถานการณ์ฝึกให้นักเรียนสังเกต……(INQUIRY METHOD)
92. ข้อใดหมายถึงการเรียนแบบรอบรู้…..(MASTERY LEARN)
93. ข่อใดคือเครื่องจัดคิวข้อมูล……..(HUB)
94. การสอนโดยระบบคอมพิวเตอร์ ON – LINE โปรแกรมการสอนจะถูกเก็บไว้ที่….(SERVER)
95. การสอนแบบมุ่งประสบการณ์ภาษา นำมาใช้ในประเทศไทยเมื่อใด…(2531)
96. สโมสรเอกชนใดให้การสนับสนุนการทดลองสอนแบบมุ่งประสบการณ์……(โรตารี่)
97. รูปแบบศูนย์การเรียนที่นิยมจัดในโรงเรียนคือ.(1. เอกเทศ 2.ในห้องเรียน 3. สอนแบบศูนย์การเรียน)
98. ศูนย์การเรียน เป็นการจัดประสบการณ์…(ให้ผู้เรียนได้ประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตน เองมากที่สุด โดยอาศัยสื่อการสอนแบบประสม และกลุ่ม สัมพันธ์ เป็นการเรียนตามเอกัตภาพ)
100. ห้องปฏิบัติการทางภาษาใช้ประกอบการสอนวิชา (SOUND LAB)……(ทุกวิชา)

วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เกริ่นนำก่อนเตรียมตัวสอบ

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับท่านที่กำลังจะได้เป็นข้าราชการครูในเร็วๆนี้ และท่านก็คือคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้าสู่ถนนสายข้าราชการครู ผมเองก็เคยเป็นอย่างเช่นท่านมาก่อนครับ เมื่อก่อนผมต้องตะเวนหาสอบไปทั่วราชอาณาจักรไทยเลย อ่านหนังสือทั้งคืนแต่ผลการสอบก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จแต่เมื่อเราไม่ยอมท้อกับอุปสรรค ผมมีแรงศรัทธาอย่างมุ่งมั่นว่าสักวันจะต้องเป็นของเรา และแล้วผมก็ทำได้ครับ ผมสามารถสอบบรรจุเป็นข้าราชการครูได้สมใจปราถนา เมื่อปี 2553 ซึ่งตอนนั้นอายุก้อเริ่มเข้าสู่หลัก 30 ไปแล้ว อาจจะประสบผลสำเร็จในเส้นทางสายนี้ช้าไปนิด แต่ผมก็ยังปลอบใจตัวเองอยู่ตลอดว่ายังไม่คนที่เขายังทำไม่สำเร็จเหมือนเราก็มี เราอย่าไปท้อ บางทีก็แอบอิจฉารุ่นน้องที่เพิ่งจบปริญญากันใหม่ ๆ แล้วสอบบรรจุก็ได้กันทันที เขาช่างโชคดีอะไรแบบนี้

เข้าเรื่องสักนิดนะครับ ที่ผมเขียนบทความออกมาครั้งนี้ผมมีจุดประสงค์เพื่อที่จะต่อยอด เติมฝันให้กับหลาย ๆคนที่กำลังจะเลือกเดินเข้าสู่เส้นทางสายข้าราชการครู ผมจะนำความรู้ที่ผมมี แนวข้อสอบ บทสรุปต่าง ๆ ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านมานำเสนอผ่านเว็บผมขอให้ท่านติดตามอ่านเรื่อย ๆนะครับ จะมีทั้งแนวข้อสอบ บทความ พรบ. และอีกหลาย ๆ เรื่องที่ผมจะนำมาเสนอเป็นระยะ

ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่มีไฟฝันแรงกล้าอย่างคุณ ผมเชื่อคุณต้องสำเร็จในสักวัน