วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

รัฐแจกทุนครูดีเด่นคนละหมื่น

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะใช้งบประมาณ 1,200 ล้านบาท ในการจ่ายเงินเพื่อเป็นกำลังใจให้กับครูที่มีการสอนดีเด่นทั่วประเทศ โดยคัดเลือกมาจากระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด แห่งละ 1 คน โดยจะได้รับเงินพิเศษคนละ 1 หมื่นบาท เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการพัฒนาการศึกษา

ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าจะมีครูที่ได้รับเงินพิเศษประมาณ 1.2 แสนคน จากจำนวนทั้งหมด 4.5 แสนคน

นอกจากนี้ ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการยังอยู่ระหว่างพิจารณาขึ้นเงินเดือนครูเป็นการ ทั่วไปอีก 58% ผ่านการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเงินวิทยฐานะและเบี้ยเลี้ยง

“กระทรวงศึกษาฯ ยังมีงบประมาณเบิกจ่ายเหลื่อมปีเหลืออยู่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ที่น่าจะสามารถนำมาดำเนินนโยบายได้” แหล่งข่าวเปิดเผย

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะมีการแถลงแผนเร่งรัฐปฏิบัติการด่วน (เพื่อคนไทย) ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ก่อนจะนำมาตรการเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 11 ม.ค.ต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวกับคณะผู้บริหารและครูจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 จำนวน 62 คน เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ว่า รัฐบาลมีโครงการที่จะให้ท้องถิ่นไปค้นหาครูที่ทุ่มเทเรื่องการเรียนการสอน เป็นหลัก โดยรัฐบาลจะดึงบุคคลเหล่านี้มา และให้แรงจูงใจ ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของค่าตอบแทน

นอกจากนี้ จะกระตุ้นให้ครูกลุ่มนี้ไปเป็นผู้ฝึกครูใหม่เพื่อเข้าสู่ระบบที่จะขยายผลครู ที่สอนดี และทุ่มเทให้แก่นักเรียนอย่างเต็มที่ อีกทั้งภาคธุรกิจเอกชนยังสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการมาช่วยสร้างแรงจูงใจ และมีส่วนร่วมในการทำโครงการนี้ด้วย

“ครูคือปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวชี้ขาด ดังนั้นไม่ว่าจะปรับปรุงระบบบริหาร ระบบงบประมาณ หรือหลักสูตรอะไรก็ตาม แต่ถ้าปัจจัยในส่วนของครูไม่เอื้อให้เกิดความสำเร็จนั้น การปฏิรูปไม่มีทางประสบความสำเร็จ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายสุนทร ลีซีทวน อดีต สส.พรรประชาธิปัตย์ เขต 2 ได้นำคณะผู้บริหารและครูจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 ได้นำกระเช้าดอกไม้และของขวัญมอบให้แก่นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2554

วันนี้ เวลา 14.20 น. ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุนทร ลีซีทวน อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 2 ได้ ได้นำกระเช้าดอกไม้และของขวัญมอบให้แก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2554 และรับฟังโอวาทจากนายกรัฐมนตรี

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณคณะผู้บริหารที่ได้เสียสละเวลาเดินทางมา พร้อมกล่าวว่า เมื่อรัฐบาลได้เข้ามาบริหารประเทศได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาโดย ตลอด ซึ่งการปฏิรูปการศึกษานั้น อาจจะฟังดูใหญ่โตมาก คือ เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และเปลี่ยนแปลงระบบ และไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ยังมีอีกหลายประเทศที่ปฏิรูปการศึกษาบ่อยครั้ง แต่สุดท้ายที่มีการวิเคราะห์วิจัย อะไรเป็นปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จในเรื่องของคุณภาพการศึกษา ซึ่งยังไม่มีที่ไหนค้นพบว่า ฉะนั้น การทำงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปต้องให้ความสำคัญกับครู ซึ่งรัฐบาลได้เริ่มต้นนโยบายคืนครูให้นักเรียน เพราะที่ผ่านมาได้มีเสียงสะท้อนว่ายังไม่พอ เพราะครูบางคนต้องวิ่งหลายโรงเรียน และความมั่นคงทางอาชีพการงานของครูยังไม่ลงตัวอีกด้วย ดังนั้น รัฐบาลกำลังดำเนินการเรื่องเงินเดือนและกฎหมาย เมื่อสภาเปิดสมัยประชุมขึ้นมาจะผลักดันตรงนี้ต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันเรื่องการศึกษาเป็นองค์ประกอบสำคัญของการปฏิรูปประเทศ ซึ่งรัฐบาลกำลังผลักดันโครงการหลักอยู่ 2 โครงการ ดังนี้ 1) เรื่องเด็กด้อยโอกาสที่จะครอบคลุมไปถึงเรื่องการแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก 2) ปัญหาความก้าวหน้าของวิชาชีพครู ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทำระบบผูกติดกับเรื่องวิทยฐานะและเรื่องการทำผลงาน ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างมาก อาจจะส่งกระทบต่อเรื่องการเรียนการสอนของนักเรียน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้พยายามปรับเพื่อให้สอดรับกับเรื่องการเรียนการสอน มากขึ้นและที่จะดำเนินการเพิ่มเติมในแผนการปฏิรูปคือ โครงการที่จะให้ท้องถิ่นไปค้นหาครูที่ทุ่มเทเรื่องการเรียนการสอนเป็นหลัก โดยจะดึงบุคคลเหล่านี้มาและจะได้รับแรงจูงใจอาจจะเป็นค่าตอบแทน นอกจากนี้ จะกระตุ้นให้ครูกลุ่มนี้ไปเป็นผู้ฝึกครูใหม่ เพื่อเข้าสู่ระบบที่จะขยายผลครูที่สอนดีและทุ่มเทให้แก่นักเรียนอย่างเต็ม ที่ อีกทั้ง ภาคธุรกิจเอกชนยังสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการมาช่วยสร้างแรงจูงใจและมีส่วน ร่วมในการทำโครงการนี้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น